ในการทำงานก่อสร้าง สิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถหลีกได้พ้นก็คือ เรื่องของ เศษวัสดุ ที่เหลือจากการใช้งาน ซึ่งบ่อยครั้งที่มันก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องความสะอาด และเป็นระเบียบ ซึ่งการจัดการกับเศษวัสดุ เป็นอีกเรื่องที่เป็นหน้าที่ของ ผู้รับเหมา ที่จะต้องรับผิดชอบ จัดการกับเศษสิ่งของวัสดุเหลือใช้เหล่านั้นให้เรียบร้อยก่อนส่งมอบงาน ดังนั้นเป็นนภาระที่ ผู้รับเหมา มีหน้าที่ต้องดูแล ซึ่งมันย่อมดีกว่ามากหากมีการวางแผนในการจัดการบริการเศษวัสดุเอาไว้ล่วงหน้า
และในเรื่องการจัดการนี้ ก็เป็นเรื่องที่มักถูกระบุลงในสัญญาการก่อสร้าง หากเป็นสัญญามาตรฐานก็จะอยู่ในข้อท้ายๆ ว่าด้วยเรื่อง “การดูแลรักษาความสะอาดสถานที่” โดยมักมีข้อความระบุว่า “...ผู้รับจ้างสัญญาว่าจะจัดการรักษาความสะอาดตลอดเวลาที่ทำงานจ้าง และเมื่องานจ้างแล้วเสร็จจะต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง และกลบเกลี่ยพื้นดินให้เรียบร้อยและขนเศษ วัสดุ อุปกรณ์ และสิ่งที่รกรุงรังออกไปให้พ้นบริเวณที่รับจ้าง พร้อมทั้งทำความสะอาดบริเวณที่รับจ้างให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย ที่ผู้ว่าจ้างจะใช้การได้ทันที...” เมื่อเป็นดังนี้มันก็เป็นเรื่องที่ชัดเจนมากว่า เป็นภาระที่ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ต้องเป็นคนรับผิดชอบ ! ซึ่งบางคนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เท่าไหร่ เสร็จงานก็จัดการให้ลูกน้องช่วยกันขนเอาออกไปก็จบ แต่... ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นเรื่องทำให้เราเสียเงินโดยไม่รู้ตัวเป็นจำนวนไม่น้อย !
ลองมาคิดกันดูว่าในการจัดการกับเศษวัสดุนั้น เราต้องจ่ายเงินในการจัดการเก็บกวาดและขนย้าย ตลอดจนถึงค่ารถในการนำเอาเศษวัสดุออกไป ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่ ผู้รับเหมา ต้องจ่ายออกไปทั้งสิ้น บางคนอาจจะว่า ไม่ได้จ้างใคร ใช้ลูกน้องตัวเองไม่ได้จ่ายเพิ่ม นั่นก็เป็นความเข้าใจที่ผิด ! เพราะเราต้องจ่ายเงินให้คนของเราเช่นเดียวกัน ในงานส่วนที่เพิ่มขึ้นมา เนื่องจากใช้เวลาทำงานเพิ่มมากขึ้น ยิ่งเป็นช่างที่มีทักษะ แต่เอาเวลาของเขาไปใช้ขนของไปทิ้ง ดูเหมือนเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองเข้าไปใหญ่ ! แต่การจัดการเศษวัสดุนั้น ไม่ได้เสียเงินเพียงแค่เรื่องนี้อย่างเดียว ! มันยังมีเงินของเราที่เสียไปแฝงอยู่ในกองสิ่งที่เราคิดว่าเป็นขยะอีกเยอะ !
เริ่มจากสาเหตุที่เรามีเศษวัสดุ ก็หมายถึงเราใช้วัสดุที่เสียเงินซื้อมาไม่หมด ! ยิ่งมีเศษวัสดุเหลือมากที่ต้องจัดการเก็บกวาดเอาไปทิ้งก็แปลว่า เงินของเราหายไปเป็นจำนวนมากด้วยเช่นกัน วิธีการที่ดีก็คือ การคำนวณก่อนการก่อสร้าง ให้เหลือเศษให้น้อยที่สุด ซึ่งเราสามารถทำได้ ยิ่งเป็นผู้ที่ออกแบบเองยิ่งดีใหญ่ เพราะเราสามารถใช้งานวัสดุให้เต็มขนาดความยาว เพื่อไม่ให้เกิดความสิ้นเปลืองต้องทิ้ง ทำให้เหลือเศษวัสดุน้อย และในอีกกรณีก็ควรมีการวางแผนที่จะใช้เศษวัสดุให้คุ้มค่า อันไหนใช้ได้ก็ควรเก็บเอาไปใช้งานต่อเพื่อไม่ให้กลายเป็นขยะสูญเปล่า ยิ่งเราใช้ได้คุ้มมาก เศษวัสดุทิ้งก็มีเหลือน้อย นั่นก็เท่ากับเราสามารถรักษาเงินของเราได้มากขึ้น กำไรก็ย่อมเหลือมากตามมา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ หรือ ผู้รับเหมา ควรมีการวางแผนก่อนเริ่มงาน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทิ้งเงินไปเปล่าๆ ทั้งที่กลายเป็นเศษวัสดุไร้ค่าแถมยังต้องเสียเงินค่าจัดเก็บทำความสะอาดอีก !!
