คำว่า “สถาปัตยกรรม” เวลาที่พูดในในแวดวงคนทั่วไป ที่ไม่ใช่ช่าง ไม่ใช่ ผู้รับเหมา วิศวกร หรือสถาปนิก สิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจ เกี่ยวกับคำนี้ อาจจะหมายถึง เรื่องของสิ่งสวยๆ งามๆ ที่เป็นงานในแนวศิลปกรรม เพื่อการตกแต่งประดับประดาเป็นส่วนใหญ่ แต่สิ่งนี้ หากพูดกันในงานการ รับเหมาก่อสร้าง หรืองานที่เกี่ยวกับการก่อสร้างแล้ว มีความหมายที่แตกต่างออกไป บางทีเวลา ผู้รับเหมา ไปรับงาน จะต้องพยายามอธิบายศัพท์ที่มีความเป็นเฉพาะแบบนี้ให้กับเจ้าของบ้าน ได้รับทราบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและเป็นอย่างถูกต้องชัดเจน
เหตุผลที่ต้องอธิบายในเรื่องนี้ ก็เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันของ ผู้รับเหมา และ เจ้าของบ้าน รวมไปถึงทำให้เจ้าของบ้านเข้าใจในเนื้องาน เวลาหารือกับวิศวกร หรือ สถาปนิก จะได้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน ไม่เกิดความคลาดเคลื่อนในความหมาย เดี๋ยวใครเกิดไปเจอเจ้าของบ้านที่นิยมชมชอบงานศิลปะ จะเข้าใจไปอีกทาง กลายเป็นเรื่องเอาปติมากรรม หรือ ต้องมีงานปูนปั้นมาลงเพิ่มเติมก็เป็นไปได้... นี่เป็นเรื่องของความคาดหวัง ที่เกิดจากความคลาดเคลื่อนเพราะคำศัพท์ !
งานสถาปัตยกรรม เมื่อใช้ในงานการ รับเหมาก่อสร้าง หรือ งานก่อสร้าง ทั่วไป หมายถึง งานก่อสร้างในส่วนที่ทำเพื่อให้เกิดความสวยงามเรียบร้อย เป็นสิ่งที่เห็นได้ด้วยตาอย่างชัดเจน แต่ไม่ใช่แค่เรื่องงานตกแต่ง เป็นงานที่รวมเอาทั้งเรื่องของการตกแต่งและก่อสร้างเข้าไว้ด้วยกัน แต่เป็นส่วนของการทำให้เกิดความสวยงามเรียบร้อย เช่น งานการทำฝ้าเพดาน งานผนัง งานสี งานปูพื้น งานติดตั้งเฟอร์นิเจอร์เครื่องใช้ทุกๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นชุดหลอดไฟ การเดินสายไฟ การติดตั้งสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ งานกระเบื้องผนัง งานกระเบื้องปูพื้น ฯลฯ. จะเห็นได้ว่างานในส่วนที่เรียกว่า งานสถาปัตยกรรม ในการทำงานก่อสร้างกินความหมายและเนื้องานค่อนข้างกว้าง ซึ่งถ้าพูดชัดๆ ก็เป็นเรื่องของการทำให้เกิดความเรียบร้อยของงาน และส่วนมาก งานในส่วน งานสถาปัตยกรรมนี้ จะเป็นงานส่วนท้ายๆ ของงาน รับเหมาก่อสร้าง เป็นส่วนใหญ่
สำหรับงานด้านสถาปัตยกรรม ในงานก่อสร้าง จะมีส่วนที่ต้องความสำคัญอยู่ 3 ประการ คือ
1. ทำแล้วเกิดความสวยงามเรียบร้อย หรือ venvstas
2. มีความมั่นคงแข็งแรง ใช้งานได้อย่างปลอดภัย หรือ firmitas คือ นอกจากดูแล้วสวยยังต้องแข็งแรงและมีความปลอดภัยในการใช้งานอย่างสมบูรณ์ด้วย
3. มีประโยชน์ใช้งานได้จริง หรือ vtilitas ซึ่งจุดนี้ทำให้คำว่า สถาปัตยกรรมของงานก่อสร้าง ไม่เป็นแค่เรื่องความงามในแบบ ทัศนศิลป์เท่านั้น แต่ยังเน้นเรื่องประโยชน์ในการใช้งานจริง
ซึ่งทั้ง 3 ประการนี้ต้องเกิดขึ้นและมีความสมดุลกัน จึงจะถือว่าเป็นงานสถาปัตยกรรมที่สมบูรณ์แบบ
เรื่องนี้อาจจะดูเป็นเพียงคำศัพท์ปลีกย่อยในการทำงาน แต่หากในเวลาที่ ผู้รับเหมา ไปทำงาน รับเหมาก่อสร้าง แล้วเกิดเจ้าของบ้านมีความสงสัย หรือ อาจเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน จะต้องสามารถอธิบายและให้รายละเอียดได้ ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลดีต่อความเข้าใจกันในการทำงาน และยังส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของผู้รับเหมาเองอีกด้วย