เจมส์ HM
2 ปีที่แล้ว
เเบบของหลังคา - โครงสร้างหลังคา เเบบไหนเหมาะกับสไตล์คุณ




1.หลังคาแบน หรือหลังคา SLAB 

ทำด้วยวัสดุที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก นิยมตามบ้านแบบสไตล์โมเดิร์น เน้นเพื่อความสวยงาม เเละสามารถทำเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยบนหลังคา เช่น ใช้เป็นที่พักผ่อนบนดาดฟ้า ใช้เป็นพื้นที่ไว้ตากผ้า หรือจัดสวนบนหลังคาเพื่อตกเเต่ง ฯลฯ 

อาจจะมีข้อเสียที่หลังคาแบนซึ่งทำด้วยคอนกรีต จึงสะสมความร้อนไว้มากกว่าหลังคาแบบอื่นๆ ทำให้เกิดการคายความร้อนออกมาในช่วงที่อากาศเย็นลง ในเวลากลางคืน ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกร้อนอบอ้าวเมื่อกลับมาบ้านในเวลาเย็น เเละการที่หลังคาแบนมีความลาดเอียงน้อย น้ำฝนจึงมักขังอยู่บนหลังคาได้ง่าย ทำให้เกิดการรั่วซึมอยู่บ่อยๆ หลังคาทรงนี้จึงไม่เค่อยเหมาะสำหรับบ้านเรือนที่พักอาศัยในเขตร้อน มักใช้คลุมพื้นที่เล็กๆภายในบ้าน เช่น ส่วนทางเดินเชื่อมต่อระหว่างบ้าน และเรือนบริการ 


2. หลังคาเพิงหมาแหงน 

คือ เป็นหลังคาที่ยกให้อีกด้านสูงกว่าอีกด้านหนึ่ง เพื่อให้สามารถระบายน้ำฝนได้ เหมาะสมสำหรับบ้านขนาดเล็ก เนื่องจากก่อสร้างง่าย รวดเร็ว ราคาประหยัด แต่ต้องระวังให้หลังคามีองศาความลาดเอียง เเละยื่นออกจากชายคามากพอ ( 120-180 cm ) เพื่อที่จะระบายน้ำฝนออกได้ทันไม่ไหลย้อนซึมกลับเข้ามาได้ 




3. หลังคาทรงมนิลา หรือหลังคาหน้าจั่ว 

คือหลังคาที่มีลักษณะเเบบมีสันตรงกลาง และลาดลงทั้ง 2 ข้าง เป็นหลังคาที่มีความเหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นแบบของบ้านเราเมืองเราที่สุด มีความสะดวกในการก่อสร้าง สามารถกันแดดกันฝนได้ดี และสามารถระบายความร้อน ใต้หลังคาได้ดี ซึ่งพื้นที่บริเวณใต้หลังคาจะมีพื้นที่เยอะ มันอาจดูเหมือนเปลืองในการใช้พื้นที่ แต่สามารถใช้เป็นห้องใต้หลังคาได้ หากเจ้าของบ้านต่อเติมเพิ่มอีก อาจใช้เป็นห้องพัก หรือเก็บของก็ได้




4. หลังคาทรงปั้นหยา

เป็นหลังคาที่กันแดดกันฝนได้ทุกด้านเเละเป็นทรงหลังคาที่ดีมาก แต่ราคาในการสร้างเเละมุงนั้นค่อนข้างสูง ราคาเเพง ใช้วัสดุมากกว่าหลังคาชนิดอื่นๆ ตลอดจนต้องหาช่างที่มีฝีมือพอสมควรในการก่อสร้าง เพราะมีรายละเอียดเยอะกว่าหลังคาชนิดอื่นๆ หลังคาปั้นหยาพบเห็นได้ในอาคารจำพวกรีสอร์ท หรือบังกะโล ไปจนถึงเรือนไทยซึ่งคุณสมบัติเด่นของมันคือการที่กันลมได้ดีกว่าหลังคาอื่น




5. หลังคาปีกผีเสื้อ 

หลังคาชนิดนี้ประกอบด้วยหลังคาเพิงหมาแหงน 2 หลังหันด้านที่ต่ำกว่ามาชนกัน ไม่ค่อยเหมาะกับสภาพภูมิอากาศที่ฝนตกชุกแบบเมืองไทยสักเท่าไร เนื่องจากต้องมีรางน้ำที่รองรับน้ำฝนจากหลังคาทั้ง 2 ด้าน ทำให้รางน้ำมีโอกาสรั่วซึมได้สูง จึงไม่เป็นที่นิยมสร้างกันมากนัก ยกเว้นอาคารที่ต้องการลักษณะเฉพาะพิเศษที่แปลกตาออกไป






 โครงสร้างหลังคาเปรียบเหมือนกระดูกสันหลังของหลังคา เพราะทำหน้าที่คงรูปทรงของหลังคาบ้าน โดยมีโครงสร้างหลังคาอยู่ 2 แบบ คือ

1. โครงสร้างไม้ สามารถติดตั้งได้สะดวก ช่างธรรมดาสามารถติด ตั้งได้ เหมาะสำหรับบ้านไม้ เพราะการยึดติดกับเสาและคาน สามารถทำได้สะดวก แต่มีข้อเสียที่มีราคาค่อนข้างแพง และหาไม้ที่มีคุณภาพดีได้ ยาก มีการบิดงอง่าย ไม่เที่ยงตรง และมีปัญหาเกี่ยวกับปลวก

2. โครงสร้างหลังคาเหล็ก มีความเที่ยงตรงในการทำงาน เหมาะสำหรับบ้าน ที่ก่อสร้างด้วยปูน มีราคาถูกกว่าไม้ เป็นโครงหลังคาที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถรองรับการมุงหลังคาวัสดุต่างๆ ได้ทุกประเภท แต่ต้องอาศัยช่างที่มีประสบการณ์ในการเชื่อมต่อโครงหลังคาเหล็ก และถ้ามีการป้องกันผิวไม่ดี เวลาเกิดการรั่วซึมของหลังคา จะมีปัญหาเรื่องการเกิดสนิมได้


ปัจจุบัน โครงหลังคามีวัสดุให้เลือกหลายชนิด โดยมีการผลิตวัสดุก่อสร้างชนิดใหม่ มาทดแทนเหล็กโครงสร้างแบบเดิม ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมระบบโครงสร้างหลังคาเหล็กพร้อมประกอบ เรียกว่าผลิตภัณฑ์โครงหลังคาเหล็กสมาร์ททรัส (Smartruss) ซึ่งเป็นโครงหลังคากึ่งสำเร็จรูปผลิตจากเหล็กเคลือบซิงคาลุม ซึ่งเป็นเหล็กเคลือบโลหะผสมระหว่างอลูมิเนียมกับสังกะสี ทำให้มีน้ำหนักเบา และกันสนิมได้ดีกว่าเดิมถึง 4 เท่า นอกจากนั้นยังคิดระบบวิธีการติดตั้งที่รวดเร็ว ประณีต ลดจำนวนของเสีย มีวิธีติดตั้งด้วยระบบสกรู ช่วยให้การก่อสร้างบ้านทำได้รวดเร็ว ปลอดภัยและสร้างความมั่นใจได้ จนเป็นที่นิยมกันอย่างรวดเร็ว มีโครงการต่างๆ เปลี่ยนมาใช้โครงหลังคาเหล็กสมาร์ทรัสกันหลากหลายขึ้น


#หลังคา
Share
909
บทความอื่นๆ
บทความอื่นๆ