เนื่องจากมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนกันอยู่บ้าง ในเรื่องการจะได้มาซึ่งไลเซนส์ หรือ หนังสือรับรองความสามารถในการทำงานของช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ซึ่งมีบางท่านคิดว่า การมาเข้ารับการอบรมและผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ แล้วก็คือ การได้ ไลเซนส์ช่างไฟฟ้าภายในอาคาร แต่... ในความเป็นจริง ยังไม่ใช่ !
houzzMate Close Up รายการที่จะมาสร้างความรู้ความเข้าใจ เพื่อให้ช่างและผู้อยู่อาศัยพูดคุยกันได้ง่ายขึ้น อาสาไปหาคำตอบมานำเสนอ !!!
การผ่านการอบรมและผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ เป็นเพียงส่วนที่ 1 จากทั้งหมด 3 ส่วน ในการจะได้ หนังสือรับรองความรู้ความสามารถ ช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน เท่านั้น ยังมีอีก 2 ส่วน ที่ช่างจะต้องผ่านการดำเนินการจึงจะได้รับเอกสารตัวนี้เพื่อเอาไปทำงานได้อย่างถูกต้อง
ซึ่งกระบวนการในการได้มาซึ่งไลเซนส์ช่างไฟฟ้าภายในอาคารนั้น จะประกอบด้วย 3 ส่วนด้วยกันคือ
1. ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ส่วนนี้มีคะแนนอยู่ที่ 50%
2. ประสบการณ์การทำงาน การศึกษา หรือการฝึกอบรมต่างๆ ที่ผ่านมา ตรงกับงานช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ส่วนนี้มีสัดส่วนคะแนนอยู่ที่ 25%
3. บุคลิกลักษณะส่วนบุคล ที่แสดงถึงศักยภาพความพร้อมในการทำงานประกอบวิชาชีพ ส่วนนี้มีสัดส่วนคะแนนอยู่ที่ 25%
เมื่อผ่านการประเมินทั้ง 3 ส่วนนี้แล้ว ผู้ที่ได้คะแนนตั้งแต่ 85% ขึ้นไป จึงจะได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถ หรือ ที่เราเรียกกันง่ายๆ ว่า ไลเซนส์ช่างไฟฟ้าภายในอาคาร
ซึ่งขั้นตอนในการจะได้ไลเซนส์ก็จะเริ่มจาก
1. การที่ช่าง สมัครเข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ซึ่งจะมีการอบรมให้เพื่อปรับพื้นฐานจากนั้นก็ต้องผ่านการทดสอบซึ่งจะมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เมื่อผ่านแล้วจึงจะเข้าสู่กระบวนการที่สอง
2. การกรอกแบบคำร้อง คร. 10 พร้อมแนบเอกสาร สำเนาบัตรประชาชน สำเนาใบรับรองผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ใบรับรองประสบการณ์การทำงาน ใบรับรองผ่านการอบรม สัมมนา สำเนาวุฒิการศึกษา และรูปถ่าย ขนาด 1 x 1.5 นิ้ว จำนวน 2 รูป มายื่นเรื่องขอรับการประเมิน เพื่อขอไลเซนส์ จากนั้นจึงจะเข้าสู่กระบวนการที่ 3
3. ทางกรม โดยผู้ประเมินจะทำการนัดมาสัมภาษณ์เพื่อดูบุคลิกลักษณะและทัศนคติอีกครั้ง เมื่อผ่านกระบวนการทั้งหมดแล้วจึงจะได้รับไลเซนส์
สำหรับในเรื่องวุฒิการศึกษา แม้จะเป็นผู้ที่ไม่ได้เรียนมาโดยตรงในสาขาที่เกี่ยวข้อง ก็สามารถนำเอามาประกอบการพิจารณาได้ แต่คะแนนก็จะมีสัดส่วนแตกต่างกันไป แต่แม้จะไม่ได้เรียนมาก็มีโอกาสที่จะได้รับไลเซนส์ได้ หากมีประสบการณ์ในการทำงานมากกว่า 2 ปี ขึ้นไป และมีคุณสมบัติข้ออื่นๆ ครบถ้วน
ไลเซนส์ของช่างไฟฟ้าภายในอาคารมีอายุ 3 ปี ก่อนจะครบกำหนดจะจะต้องมาทำเรื่องเพื่อขอต่ออายุ แต่ในการขอต่ออายุจะเป็นเพียงการสัมภาษณ์เพื่อประเมิน ไม่จำเป็นต้องมารับการทดสอบทักษะมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติใหม่อีก ที่ต้องมีการตรวจสอบเช่นนี้ ก็เพื่อเป็นการเช็คความพร้อมในการทำงานของช่าง ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าในช่วงเวลา 3 ปี หลังจากได้รับไลเซนส์ไป ช่างอาจจะไม่ได้ประกอบอาชีพ หรือทำงานในด้านช่างไฟฟ้าภายในอาคารอย่างต่อเนื่อง อาจจะไปทำงานอย่างอื่นมาบ้าง การเข้ามาพูดคุยกันอีกครั้งก็เป็นการลับคมเพื่อให้มีความพร้อมในการทำงานนั่นเอง
ผลดีที่ช่างจะได้รับจากการได้ ไลเซนส์ ช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ก็คือ ทำให้เป็นช่างที่ได้รับความเชื่อถือว่าทักษะความรู้ในระดับมาตรฐาน สามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถได้รับค่าตอบแทนที่ตรงกับความเป็นจริง และยังมีผลในการไปทำงานต่างประเทศ เนื่องจากตอนนี้ไทยเราก็เข้าสู่ AEC แล้ว การที่มีการตรวจสอบมาตรฐาน ทำให้ช่างผ่านการพิจารณาจ้างงานในต่างประเทศได้ง่ายยิ่งขึ้น เนื่องจากมีมาตรฐานรับรองตัวของช่างอยู่
นี่ก็คือ เรื่องทั้งหมด เกี่ยวกับ ไลเซนส์ของช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ซึ่ง houzzMate ได้ติดตามหาคำตอบเอามานำเสนอ ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์สำหรับท่านที่ประกอบวิชาชีพช่างไฟฟ้าภายในอาคารทุกท่าน ตลอดจนถึงผู้ประกอบการที่ต้องทำงานกับช่างไฟฟ้าภายในอาคาร รวมถึงท่านที่เป็นผู้อยู่อาศัย หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อแจ้งมายังเราได้ เราจะไปค้นหาคำตอบมานำเสนอให้ท่านโดยเร็ว !

และในตอนนี้ houzzMate ร่วมกับศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน จังหวัดลำพูน ได้จัด “กิจกรรมอบรมและทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานฯ สำหรับช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ฟรี !” ขึ้น ซึ่งช่างสามารถสมัคร ได้ตามลิงค์นี้ คลิกเพื่อแจ้งความประสงค์ โดยที่ช่างไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการอบรมและทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติระดับที่ 1 ใดๆ ทั้งสิ้น